กรุงเทพมหานครทุกวันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย รวมทั้งได้มีการเปลี่ยนผู้ว่าราชการ-กรุงเทพมหานครจากคนเก่ามาเป็นคนใหม่ อย่างที่เราทุกคนทราบกันดี
กรุงเทพมหานครมีสัญลักษณ์หลายสิ่งหลายอย่างที่บ่งบอกความเป็นกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร "ป้อมมหากาฬ" ซึ่งอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ทางเข้าสู่ถนนราชดำเนินกลาง ก็เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงเทพฯ
"ป้อมมหากาฬ" แห่งนี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็น 1 ใน 14 ป้อม ที่พระ บาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เมื่อครั้งทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรี มาสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นที่ฝั่งพระนคร และทรงสถาปนาขึ้นเป็นราชธานี พระราชทานนามว่า กรุงรัตนโกสินทร์
พระองค์ทรงตระหนักถึงปราการที่จะป้องกันพระนครจากการรุกรานของข้าศึก จึงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองรอบกรุงขึ้นใหม่ ตั้งแต่ปากคลองบางลำพูทางทิศตะวันออกของบางลำพูไปออกที่ปากคลองใต้วัดเลียบ (ราชบูรณะ) ซึ่งเรียกว่าปากคลองโอ่งอ่าง แล้วพระราชทานนามว่า คลองรอบกรุง มีความยาว 85 เส้น 13 วา กว้าง 10 วา ส่วนทางฝั่งตะวันตกของคลองรอบกรุงนี้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างป้อมเป็นระยะ ๆ รวม 14 ป้อมขึ้น พร้อมกับสร้างกำแพงเมืองโดยตลอด
แต่เมื่อป้อมปราการหมดความจำเป็นเพราะบ้านเมืองเจริญขึ้นจึงมีบางป้อมที่ถูกรื้อถอนไป ทำให้นับวันลูกหลานไทยจะหาดูได้ยากเต็มที ในปัจจุบันป้อมปราการยังคงเหลือไว้อยู่เพียง 3 ป้อม คือ ป้อมพระสุเมรุ ที่ถนนพระอาทิตย์ ป้อมมหากาฬ บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และป้อมวิไชยประสิทธิ์ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านฝั่งธนบุรีตรงข้ามกับโรงเรียนราชินีปากคลองตลาด
เพื่อให้ "ป้อมมหากาฬ" ปราการอันสำคัญ ยังคงความสง่างามสมกับเป็นตำนานแห่งความกล้าหาญของบรรพชนสืบสานไปนานเท่านาน ทางกรุงเทพมหานครจึงมีแนวคิดที่จะอนุรักษ์ป้อมมหากาฬและพื้นที่โดยรอบขึ้น ด้วยการพัฒนาพื้นที่ให้เรียบร้อยสวยงาม พร้อมทั้งปรับผังการใช้ที่ดินเสียใหม่
ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2536 ที่ให้สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโครงการกรุงรัตนโกสินทร์ จัดทำแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2545 คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้กรุงเทพมหา นครและกรมศิลปากร ร่วมพิจารณาจัดทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ป้อมมหากาฬ และทางกรุงเทพมหานครได้ขอความร่วมมือจากกองบัญชาการทหารสูงสุด เพื่อให้ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นผู้ดำเนินการตามโครงการ
เมื่อทางการต้องการอนุรักษ์ป้อมมหากาฬ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องหมายแสดงอาณาเขตของกรุงรัตนโกสินทร์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะตัวป้อมเชื่อมต่อกับแนวกำแพงเมืองที่ขนานกับคลองรอบกรุง ตั้งแต่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศจนสุดเขตวัดราชนัดดารามวรวิหารที่ติดกับวัดเทพธิดา ส่งผลให้ชุมชนป้อมมหากาฬที่ตั้งอยู่หลังแนวกำแพงเมือง เขตพระนคร และที่อยู่ในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอกถูกรื้อถอน
ส่วนการดำเนินการปรับปรุงในพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตรนั้น ได้มีการตัดแต่งและเคลื่อนย้ายต้นไม้ เพื่อเปิดมุมมองให้เห็นตัวป้อมและกำแพงเมืองได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งจัดบริเวณข้างป้อมมหากาฬให้เป็นสวนสาธารณะ
นอกจากนี้ยังรวมถึงการปรับปรุงพื้นที่ริมคลองรอบกรุงหรือที่เรียกกันว่าคลองโอ่งอ่าง ให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม ร่มรื่นขึ้น รวมทั้งมีการปรับปรุงท่าเรือและสร้างทางเดินเชื่อมต่อระหว่างจุดสัญจรต่าง ๆ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยให้กับผู้ที่สัญจรไปมาในบริเวณนี้เพิ่มขึ้น
โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบป้อมมหากาฬ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นโครงการหนึ่งที่กองบัญชาการทหารสูงสุด น้อมเกล้าฯถวายเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นปีที่ 72
สำหรับ "ป้อมมหากาฬ" หรือที่เรียกกันว่า "ป้อมพระกาฬ" ที่ตั้งสง่าอยู่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนมหาไชยนี้ เริ่มสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2326 บนกำแพงเมืองด้านตะวันออก ริมคลองรอบกรุงหรือคลองโอ่งอ่าง เยื้องกับคลองมหานาค ถือเป็นป้อมที่ยังคงสภาพเดิมอยู่มาก ตลอดทั้งแนวกำแพงเมืองที่หลงเหลืออยู่บนเกาะรัตนโกสินทร์
ลักษณะของป้อมเป็นรูปแปดเหลี่ยมสามชั้น สองชั้นแรกเป็นกำแพงรอบ ชั้นในสุดเป็นป้อม (ห้อง) บัญชาการรบรูปแปดเหลี่ยมเช่นเดียวกับกำแพงด้านนอก นอกจากตัวป้อมที่เป็นสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าแล้ว ของโบราณที่ยังเหลืออยู่ที่นี่ก็คงจะเป็นปืนใหญ่ทั้ง 12 กระบอก ที่ตั้งอยู่บนกำแพงล้อมรอบป้อมมหากาฬ ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492
ป้อมมหากาฬแห่งนี้ รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญ ๆ อาทิ ภูเขาทอง หรือชื่อทางราชการเรียกว่า บรมบรรพต ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดสระเกศราชวรวิหาร เป็นปูชนียสถานที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เพื่อให้กรุงเทพฯ มีภูเขาทองเหมือนอย่างกรุงศรีอยุธยา
โลหะปราสาท ที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัดราชนัดดารามวรวิหาร เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อพระราชทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างปราสาทขึ้นอีก แทนการสร้างธรรมเจดีย์ โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด หมายถึงโพธิปักขิยธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ
รวมทั้ง ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ซึ่งต่อมาคือ รัชกาลที่ 3 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดราชนัดดารามวรวิหาร พื้นที่โดยรอบเป็นลานกว้างที่ตกแต่งเป็นสวนสวยงาม ทางบริเวณด้านซ้ายของพระบรม ราชานุสาวรีย์ เป็นที่ตั้งของพลับพลาพระราชพิธี มีลักษณะเป็นอาคารโถงจัตุรมุขหลังคาซ้อน 2 ชั้นและศาลาราย 3 หลัง อีกทั้ง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่ตั้งอยู่กลางถนนราชดำเนิน สร้างขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ตรงกลางประดิษฐานพานรัฐธรรมนูญ มีความสูง 3 เมตร หนัก 4 ตัน
การปรับปรุงให้ป้อมมหากาฬแห่งนี้มีความสง่า น่าเกรงขามขึ้นมาอีกครั้ง เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแสดงความกตัญญูรู้คุณแห่งบรรพชน ที่ปกป้องแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานมาทุกยุคทุกสมัย ทำให้เห็นได้ว่า การอนุรักษ์และเสริมสร้างความสง่างามแห่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์นั้น ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปหากมีความตั้งใจและคิดที่จะทำอย่างจริงจัง!!
ป้อมกำแพงนครที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 1 เมื่อประมาณ พ.ศ. 2326 จนแล้วเสร็จในรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีอยู่ 14 ป้อม ถูกรื้อถอนไปหมดเหลือเพียง 2 ป้อม คือ ป้อมพระสุเมรุ และป้อมมหากาฬ มีชื่อและที่ตั้ง ดังนี้
1. ป้อมพระสุเมรุ 2. ป้อมยุคนธร 3. ป้อมมหาปราบ 4. ป้อมมหากาฬ 5. ป้อมหมูทะลวง 6. ป้อมเสือทะยาน 7. ป้อมมหาไชย 8. ป้อมจักรเพชร 9. ป้อมผีเสื้อ 10. ป้อมมหาฤกษ์ 11. ป้อมมหายักษ์ 12. ป้อมพระจันทร์ 13. ป้อมพระอาทิตย์ 14. ป้อม อิสินธร
นอกจากนี้ยังมีป้อมที่อยู่นอกกำแพงเมือง สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองผดุงกรุงเกษมขึ้นใช้เป็นคูคลองรอบพระนครชั้นนอก พร้อมทั้งโปรดเกล้าฯ ให้สร้างป้อมขึ้น 7 ป้อม ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกรื้อถอนไม่หลงเหลือให้เห็นแล้ว คือ
1. ป้อมปิดปัจจานึก 2. ป้อมผลาญศัตรูราบ 3. ป้อมปราบศัตรูพ่าย 4. ป้อมทำลายแรงปรปักษ์ 5. ป้อมหักกำลัง ดัษกร 6. ป้อมมหานครรักษา 7. ป้อมฮึกเหี้ยมหาญ
1. ป้อมป้องปัจจามิตร 2. ป้อมวิไชยประสิทธิ์ โดยป้อมวิไชยประสิทธิ์แห่งนี้ยังหลงเหลือให้ได้เห็นอยู่ในปัจจุบัน.