วัดสุทัศน์เทพวราราม วัดประจำรัชกาลที่ 8 เดิมชื่อว่า “วัดมหาสุทธาวาส” เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความงดงามทางด้านศิลปวัฒนธรรม สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อให้เป็นวัดกลางใจเมืองกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเสาชิงช้า
ภายในวัดสุทัศน์ฯแบ่งอาณาบริเวณเป็น 2 เขต คือ เขตพุทธาวาส และเขตสังฆวาส ซึ่งประกอบด้วยสิ่งสำคัญอันได้แก่ พระวิหาร ตั้งอยู่บนฐานไพที 2 ชั้น ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วหลังคาไทย 2 ชั้น 1 ลด มีมุขเด็จทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เสาเหลี่ยมมีบัวหัวเสา ผนังพระวิหารเป็นภาพจิตรกรรมเรื่อง ไตรภูมิกถา เป็นที่ประดิษฐาน พระศรีศากยมุนี ปางมารวิชัย หล่อด้วยโลหะ หน้าตักกว้าง 3 วา 1 คืบ ส่วนบริเวณด้านหน้าพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
พระอุโบสถ ของวัดสุทัศน์ฯ มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หันหน้าไปด้านทิศตะวันออก ตั้งอยู่บนฐานไพที 2 ชั้น หลังคาทรงไทยโบราณ 4 ชั้น 3 ลด เสาเหลี่ยมแบบจีนไม่มีหัวเสา ผนังของพระอุโบสถเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซุ้มประตูหน้าต่างเป็นซุ้มยอดมีลักษณะแปลกและงดงาม ส่วนซุ้มสีมารอบพระอุโบสถทั้ง 8 ซุ้ม เป็นทรงมณฑปยอดเจดีย์ครอบกำแพงแก้ว และใบเสมาคู่ทำจากหินอ่อนสีเทา สลักเป็นภาพช้าง 3 เศียร งวงชูดอกบัวตูมเศียรละ 1 ดอก เบื้องบนมีดอกบัวบาน 3 ดอก บนกำแพงแก้วด้านทิศเหนือและทิศใต้มีเกยด้านละ 4 เกย สำหรับใช้เป็นที่ประทับโปรยทานแก่ประชาชนในพระราชพิธี “เกยโปรยทาน” ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 10 ศอก 8 นิ้ว
สัตตมหาสถาน เป็นสถานที่สำคัญ 7 แห่งที่พระพุทธเจ้าประทัยหลังจากตรัสรู้แล้ว
“สัตตมหาสถาน” ถือเป็นปูชนียสถานสำคัญของวัด อันประกอบด้วย
พระรัตนบัลลังก์ (บัลลังก์ใต้ต้นโพธิ์ที่ตรัสรู้)
พระอนิมสเจดีย์ (ที่ประทับรูปเก๋งจีนสำหรับดูพระมหาโพธิ์โดยมิได้กระพริบพระเนตร)
พระรัตนฆรเจดีย์ (เรือนแก้ว ซึ่งปัจจุบันได้ปรักหักพังไปเกือบหมด)
พระอัชปาลนิโครธ (ต้นไทร)
พระมุจลินทพฤกษ์ (ต้นจิก)
พระราชายตนพฤกษ์ (ต้นเกด)
ศาลาการเปรียญ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเขตสังฆวาส เป็นอาคารทรงไทยโบราณ หลังคา 2 ชั้น มุงด้วยกระเบื้องดินเผา มีเฉลียง 4 ด้าน ไม่มีช่อฟ้าและหางหงส์เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทเสรฏฐมุนี หล่อด้วยทองเหลืองของกลักฝิ่น หน้าตักกว้าง 1 ศอก 1 คืบ 1 นิ้ว และรอบศาลาการเปรียญ ยังมีศาลารายล้อมอีก 6 หลัง
ศาลาวิหารทิศ ตั้งอยู่ที่มุมทั้ง 4 ของพระวิหารขนานไปตามแนวนอน เป็นศาลาโถงทรงไทย มีพระพุทธรูปประดิษฐานศาลาละ 2 องค์ ศาลาด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามแก่นจันทร์ และพระไสยาสน์ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามแก่นจันทร์และปางสมาธิ ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติแลปางทรงจีวร
ศาลาดิน ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของซุ้มประตูทางเข้า 2 หลัง และด้านหน้าพระอุโบสถอีก 2 หลัง ที่ผนังด้านในประดับด้วยภาพฤๅษีดัดตนแกะสลักจากศิลาสีดำ
ศาลาราย อยู่ด้านทิศใต้ของพระอุโบสถมี 4 หลังและมีแผ่นศิลาสีดำสลักภาพชาดก
ศาลาลอย อยู่ชิดแนวกำแพงด้านเหนือหน้าพระวิหารมี 4 หลัง สำหรับเป็นที่ประทับทอดพระเนตรการโล้ชิงช้า
หอระฆัง เป็นอาคารก่ออิฐทรงแปดเหลี่ยม หลังตาเป็นป้อมแบบยุโรป ภายในเป็นบันไดเวียนขึ้นข้างบน ด้านบนเจาะเป็นซุ้มโปร่งทุกด้าน เพื่อให้มองเห็นระฆัง
วิหารคตหรือระเบียงคต สร้างล้อมรอบพระวิหาร จำนวน 4 หลัง เป็นหลังคาทรงซ้อนหน้าบันสลักภาพนารายณ์ทรงครุฑ ผนังภายในเขียนสีลายดอกไม้ร่วงสลับกับนกบิน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปั้นจำนวน 156 องค์
วัดสุทัศน์เทพวราราม ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความงดงามและทรงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม นอกจากนั้นยังได้รับการขนานนามว่าเป็นวัดที่มีการวางผังได้สัดส่วนงดงามที่สุดอีกด้วย